ในยุค COVID ถือเป็นหนึ่งยุคที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของโลกใบนี้ พฤติกรรมทุกคนได้รับการเปลี่ยนแปลง ทั้งจากเรื่องของสุขอนามัยและมาตรการป้องกันโรคระบาด Touchless Contactless Cashless กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญและตื่นตัว โดยเฉพาะในประเทศไทยที่การระบาดยังคงดำเนินอยู่จนมาถึงระลอกที่ 3 ประกอบกับเทคโนโลยีในประเทศไทยที่ได้รับการวางรากฐานด้านเทคโนโลยีมาระยะหนึ่ง
แต่เนื่องจากเทคโนโลยีเหล่านี้ มีหลายบริษัทหลายองค์กรที่หันมาพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว จึงทำให้ผู้ใช้มากมายจำเป็นต้องติดตั้งแอปพลิเคชันเป็นจำนวนมากทั้งการซื้อขายและการชำระเงิน แถมบางครั้งแอปฯ เหล่านั้นไม่เชื่อมโยงกันต้องคอยสลับแอปฯ ไปมา จนอาจก่อให้เกิดความผิดพลาดได้ แต่ก็ยังไม่มีใครที่จะคิดค้นระบบที่สามารถให้บริการได้ ภายใต้แอปพลิเคชันเดียวหรือที่เรามักจะเรียกว่า One Stop Service
นั่นจึงทำให้ สบาย เทคโนโลยี (SABUY Technology) ภายใต้การดูแลของ คุณชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เริ่มเกิดแนวคิดของการให้บริการทุกอย่างเพียงจุดเดียว เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้บริการได้ง่ายสะดวกและสบายดังชื่อบริษัท นี่คือจุดเริ่มต้นของการสร้าง ecosystem ในการให้บริการที่รวบรวมทุกบริการ ทุกความต้องการของผู้ใช้งาน
ถ้าพูดถึงจุดเริ่มต้นแล้วคงต้องกล่าวถึง “ตู้เติมเงินสบายพลัส” และธุรกิจตู้ขายสินค้าอัตโนมัติภายใต้ชื่อ “เวนดิ้งพลัส” ซึ่งทั้ง 2 นี้คือธุรกิจแรกเริ่มของสบายเทคโนโลยี โดยตั้งอยู่บนแนวคิดพื้นฐานในการให้บริการที่สะดวกสบาย ทั้งตู้เติมเงินสบายพลัสที่ช่วยให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือแบบเติมเงินสามารถเติมจำนวนเงินได้ด้วยตัวเอง และตู้ขายสินค้าอัตโนมัติเวนดิ้งพลัสที่ช่วยให้ผู้ที่ต้องการซื้อเครื่องดื่มในราคาคุ้มค่าสามารถซื้อได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
และเพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้บริการได้มากขึ้น สบาย เทคโนโลยี จึงได้เปิดตัว SABUY Solutionโดยให้บริการด้านการชำระเงินผ่านเครื่อง POS, ศูนย์อาหาร (Food Court) และบริการตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ ควบคู่กับการการให้บริการด้านการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์อย่าง SABUY Money ช่วยให้บริการศูนย์อาหารและร้านค้าต่างๆ สามารถชำระเงินผ่านเครื่อง POS ในระบบออนไลน์
แต่แค่ใช้งานได้อาจยังไม่เพียงพอสำหรับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน การมอบสิทธิประโยชน์หรือการสร้าง Loyalty Program เป็นอีกส่วนที่ช่วยให้การใช้งานผ่านระบบออนไลน์มีความสนุกมากขึ้น โดยเป็นความร่วมมือกับ Buzzebees ในการจัดตั้งบริษัท SABUY Exchange ซึ่งเป็นบริษัทที่จะช่วยสร้าง Loyalty Program ให้กับทุกการใช้จ่ายผ่านระบบของ SABUY Money รวมไปถึงการสะสมคะแนนและการโอนย้ายคะแนนต่างๆ
และเพื่อให้การใช้จ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์ทำได้สะดวกมากยิ่งกว่าเดิม SABUY Money จึงได้ร่วมมือกับธนาคารพันธมิตรกว่า 6 แห่งในการเป็น Bank Agent ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ตั้งแต่ฝาก โอน ถอน เติม จ่าย และยังได้ร่วมมือกับธนาคารพันธมิตรอย่าง CIMB Thai ในการรับโอนเงินระหว่างประเทศช่วยให้ผู้ใช้แรงงานต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยสามารถโอนกลับไปยังประเทศบ้านเกิดตัวเองได้ง่ายๆ
อย่างที่กล่าวไว้แล้วว่า แนวคิดทางธุรกิจของ SABUY คือการให้บริการที่สะดวกสบายที่สุดแก่ผู้บริโภค เพื่อให้สามารถครอบคลุมผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ SABUY จึงได้จับมือกับ FSMART ผู้ให้บริการ “ตู้บุญเติม” อดีตคู่แข่งในตลาดตู้เติมเงิน มาเป็นพันธมิตรส่วนหนึ่งของ ecosystem ด้านช่องทางธุรกรรมการเงิน รวมถึงการจับมือกับ True Money Walletร่วมเป็นส่วนหนึ่งในช่องทาง e-Payment และยังร่วมมือกับ THAIVAN และ GHL ในการชำระเงินผ่านเครื่อง EDC
ทั้งหมดที่กล่าวมาคือความร่วมมือในการสร้าง ecosystem ด้านธุรกรรมทางการเงินและมีส่วนช่วยให้ตลาด e-Commerce เติบโตขึ้น ทว่า e-Commerce นอกจากเรื่องของการชำระเงินแล้ว การจัดส่งสินค้า (Logistic) ก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งคุณชูเกียรติก็ให้ความสำคัญเนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งในการให้บริการผู้บริโภค นั่นจึงทำให้เกิดความร่วมมือกับ Shipsmile ในการบริการ Counter Service โดยเฉพาะการจัดส่งสินค้าให้กับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ และเป็นผู้จัดส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภคผ่านพันธมิตรเครือข่ายด้านขนส่ง รองรับการชำระเงินในรูปแบบ COD
ยิ่งไปกว่านั้น Shipsmile ยังเป็น Counter Service ที่ให้บริการด้านธุรกรรมการเงินทั้งฝาก ถอน โอน เติม จ่าย และยังช่วยสนับสนุนให้สินค้า OTOP สามารถเข้าสู่ตลาด e-Commerce ได้ง่ายขึ้น พร้อมด้วยการให้ความรู้กับผู้ที่สนใจเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ยุคใหม่ ที่สำคัญ Shipsmile ยังให้บริการในรูปแบบ Same Day และยังมีแผนพัฒนาการขนส่งสินค้าสดผ่านระบบควบคุมอุณหภูมิ
เมื่อมองภาพรวมความร่วมมือที่ผ่านมาจะเห็นว่า SABUY จะเน้นไปที่ผู้ประกอบการทั้งร้านอาหารและกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ POS รูปแบบของการชำระเงินแบบ Cashless อย่าง e-Payment รวมถึงระบบการขนส่ง จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับบริษัท FoodVille ในการให้บริการ SABUY Market Plus แหล่งรวมการซื้อขายสินค้าที่จะกลายเป็น e-Marketplace สำคัญและด้วยแนวคิดการสร้าง ecosystem ดังนั้น SABUY Market Plus จึงเป็นพันธมิตรกับ e-Marketplace รายใหญ่ในประเทศ เพื่อช่วยส่งเสริมให้ตลาด e-Commerce กลายเป็นตลาดที่สำคัญของผู้ประกอบการรายย่อย
โดยเริ่มต้นด้วยการเปิด SABUY Food Plus ที่เน้นขายวัตถุดิบด้านอาหารสด โดยเฉพาะผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์ต่างๆ โดยในอนาคตจะมีความร่วมมือกับ Shipsmile ในการเป็นจุดรับส่งสินค้าสำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการของสด ขณะที่ผู้ประกอบการร้านอาหารสามารถสั่งสินค้าผ่าน SABUY Food Plus พร้อมส่งถึงร้านค้าได้ทันทีและเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับร้านค้าตามแนวคิดทางธุรกิจ จึงเตรียมเปิดบริการ SABUY Capital Plus แหล่งเงินกู้ Soft Loan ระยะสั้นที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการชำระค่าวัตถุดิบอาหารโดยไม่กระทบกระแสเงินสดที่ใช้หมุนเวียนในระบบ และช่วยให้ระบบ Supply Chain ในธุรกิจอาหารสามารถขับเคลื่อนได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้คุณชูเกียรติยังมองถึงการให้บริการทางด้านอื่น ที่ช่วยครอบคลุมให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
เพราะธุรกิจร้านอาหารส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการลักษณะ SME ซึ่งมีความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจมาก จำเป็นที่จะต้องมีหลักประกันความเสี่ยงธุรกิจ จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับบริษัท Howden Maxi ในการตั้ง SABUY Maxi ธุรกิจที่จะช่วยมองหาประกันที่เหมาะสมกับธุรกิจในรูปแบบของ Insurance Broker ที่ช่วงแรกจะเน้นไปที่ประกันในกลุ่มธุรกิจ SME และในอนาคตจะขยายสู่ผู้บริโภครายอื่นๆ
ที่น่าจับตามองคือ ecosystem ของ SABUY เริ่มเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการทำธุรกรรมการเงินไม่ว่าจะซื้อสินค้าหรือประกันสามารถจ่ายได้ง่ายๆ ที่ตู้เติมเงินทั้งตู้เติมเงินสบายพลัสและตู้บุญเติมหรือจะชำระผ่านร้านสะดวกซื้อด้วย True Money Wallet หากแถวบ้านไม่มีทั้งตู้เติมเงินและร้านสะดวกซื้อ สามารถมองหาสัญลักษณ์ Shipsmile ก็สามารถทำธุรกรรมการเงินได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นหากแถวบ้านมีร้านค้าที่ใช้เครื่อง POS ของ SABUY ก็สามารถชำระเงินได้เช่นเดียวกัน
ในอนาคต SABUY จะยังคงพัฒนา ecosystem อย่างต่อเนื่อง โดย SABUY จะทำหน้าที่เป็น Platform กลางเพื่อส่งต่อความต้องการของผู้บริโภคไปถึงมือของผู้ให้บริการที่เป็นมืออาชีพระดับแถวหน้าของประเทศ ซึ่ง SABUY ยังคงเน้นในเรื่องการให้บริการแบบ One Stop Service ที่อาจจะเป็นเรื่องของการจอง การเช่าซื้อ ทั้งในกลุ่มผู้บริโภคและผู้ประกอบการ และในอนาคต SABUY อาจให้บริการเชื่อมกับภาครัฐ อาทิ การจดแจ้งษริษัท การชำระภาษี หรือการยืนยันตัวตนในระบบภาครัฐ (e-KYC) ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งบริการที่ช่วยให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายที่สุด และเมื่อถึงเวลานั้น SABUY Tech อาจกลายเป็นธุรกิจรายแรกๆ ของประเทศที่มีการใช้เทคโนโลยี Blockchain ขนาดใหญ่ที่สุดของไทยก็เป็นได้
อ้างอิงแหล่งที่มา : marketingoops.com