นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 157.02 ล้านหุ้น หรือ 15% ของทุนจดทะเบียน 1,050 ล้านบาท (หลังจากขายหุ้นเพิ่มทุน) ที่ราคา 2.50 บาท/หุ้น คิดเป็นมูลค่าการระดมทุนประมาณ 392,550,000 บาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายกิจการต่างๆ อาทิ โครงการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money Service) โครงการติดตั้งเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ โครงการให้บริการระบบเงินอิเล็กทรอนิกส์แก่ศูนย์อาหารและร้านค้า โครงการขยายศูนย์กระจายสินค้า ตลอดจนโครงการเพิ่มตู้ขายสินค้าอัตโนมัติซึ่งมีอัตราการเติบโตสูง เพื่อสร้างการเติบโตให้บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองต่าง ๆ ตามกฎหมาย
สำหรับผลประกอบการของปีนี้ในช่วง 6 เดือนแรก บริษัทมีผลประกอบการเติบโตสูง สวนทางสภาวะเศรษฐกิจไทยที่ถดถอยอย่างรุนแรงจากผลกระทบจากวิกฤติไวรัส โควิด-19 โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 720 ล้านบาท เติบโตขึ้น 21% และมีกำไรสุทธิ 46.27ล้านบาท เติบโตขึ้น 530% จากงวดครึ่งปีแรกปี 2562 ที่บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 7.4 ล้านบาท จากรายได้รวม 593 ล้านบาท โดยรายได้จากธุรกิจตู้ขายสินค้าอัตโนมัติเติบโตสูงขึ้น ประกอบกับการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ทำให้อัตรากำไรสุทธิ ( Net profit margin) ของ SABUY เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า จาก 1.2% เป็น 6.4% ในงบครึ่งปีแรกปีนี้ ซึ่งบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์ด้านการจำหน่ายสินค้าที่มีมูลค่าสูงขึ้น และการลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัท หลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญของ SABUY กล่าวว่า หุ้นไอพีโอ “SABUY” ได้รับความสนใจอย่างสูงจากการโรดโชว์สถาบันการเงินต่างๆ และกลุ่มนักลงทุนรายย่อย โดยนักลงทุนสถาบันการเงินได้แสดงความสนใจในการจองซื้อหุ้นไอพีโอผ่านการทำบุ๊คบิลดิ้ง ซึ่งราคาหุ้นไอพีโอหุ้นละ 2.50 บาทเป็นราคาที่เหมาะสม สำหรับ “SABUY” ซึ่งจัดเป็น Growth Tech Stock หรือหุ้นเทคโนโลยีที่มีอัตราการเติบโตสูงในอนาคต และมี Business Model ที่ดีและพิสูจน์แล้วว่าสร้างผลกำไรได้อย่างมั่นคง นอกจากนี้ SABUY มี Eco System ของตนเอง และมีแผนการขยายธุรกิจที่จะสร้างการเติบโตอย่างสูง โดยที่สำคัญ ทีมผู้บริหารระดับสูงของ SABUY เป็นทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ระดับสูงจากธนาคารระดับโลก และ ธนาคารชั้นนำของไทย ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอย่างสูง และความเข้าใจในอุตสาหกรรมด้าน E-Banking และ Commerce เป็นอย่างดี นอกจากนี้ SABUY ยังมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีทุนจดทะเบียนสูงถึง 1,050 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิสูง และมีอัตราหนี้สินต่อทุนต่ำ จึงมีโอกาสในการขยายกิจการด้าน Commerce & Payment Solutions ได้อีกมาก
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเปิดให้นักลงทุนทั่วไปจองซื้อได้ในระหว่างวันที่ 3-5 พฤศจิกายน 2563 ผ่านกลุ่มบริษัทผู้จัดจำหน่าย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และมีกำหนดการจะเริ่มเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 นี้